Posted on

ประเด็นPM2.5 ภัยเงียบก่อมะเร็ง?

ทุกวันนี้อากาศที่เราใช้หายใจเต็มไปด้วยฝุ่นละอองที่มีสารพิษมากมายซ่อนอยู่ หนึ่งในนั้น คือ PM2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งมีองค์ประกอบทางเคมี อย่างปรอท แคดเมียม อาร์เซนิก หรือโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน เนื่องจากฝุ่นPM 2.5  เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก ขนาดของฝุ่นละอองซึ่งมีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน คือ หากถามว่า 2.5 ไมครอน  เรียกได้ว่าเล็กจนขนาดขนจมูกของคนเรา ซึ่งทำหน้าที่กรองฝุ่นนั้นไม่สามารถดักจับฝุ่นเหล่านี้ได้เลย ฝุ่นPM2.5ยังเป็นสารก่อมะเร็งที่มีขนาดโมเลกุลเล็กเพียง 2.5 ไมครอน เล็กมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อเข้าไปโดยไม่รู้ตัวในหลอดลมจนถึงปอด จะทำให้เกิดการอักเสบ หากร่างกายได้รับสาร PM 2.5 ในปริมาณมากและยาวนานเกินไป จะทำให้กลายเป็นมะเร็งปอดได้ ด้วยขนาดที่เล็กมากของฝุ่น PM2.5 ซึ่งลอยอยู่ในอากาศร่วมกับไอน้ำ ควัน ก๊าซต่าง ๆ จึงทำให้แพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นพาหะนำสารอันตรายอื่น ๆ ที่เคลือบอยู่บนผิวของฝุ่นเข้ามาอีกด้วย เช่น สารปรอท สารโลหะหนัก สารก่อมะเร็ง ซึ่งสารเหล่านี้ส่งผลเสียกับร่างกายเป็นอย่างมาก จริง ๆ แล้ว ฝุ่น PM2.5 ไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่ปัญหาฝุ่นชนิดนี้นี้มีมานานแล้ว เพียงแต่เราใช้ชีวิตประจำวันไปโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะฝุ่นมีปริมาณไม่มาก จึงทำให้ไม่ทันสังเกตเห็นฝุ่นชนิดนี้ อีกทั้งประเทศไทยยังไม่มีเครื่องมือเฉพาะทางด้วย จนกระทั่งเมื่อ 1 – 2 ปีมานี้ ปัญหาฝุ่นนี้กลับรุนแรงขึ้น ปกคลุมหนาไปทั่วทุกพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร จนหลายคนสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า รวมทั้งได้รับผลกระทบด้านสุขภาพ จึงทำให้หันมาตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้

ฝุ่นPM2.5มีผลกระทบต่อร่างกายและอันตรายมาก ๆ สำหรับคนที่แข็งแรง สุขภาพดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เมื่อได้รับฝุ่น PM2.5 อาจจะไม่ส่งผลกระทบให้เห็นในช่วงแรกๆ แต่หากได้รับติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือสะสมในร่างกายมากเข้า สุดท้ายก็จะก่อให้เกิดอาการผิดปกติในร่างกายได้ภายหลัง ซึ่งผลกระทบนี้เกิดได้ทั้งกับอวัยวะภายในร่างกายและทางผิวหนัง  ทำให้มีปัญหาผื่นคัน ผื่นแพ้, ลมพิษ, ผิวหน้าเหี่ยวแพ้ง่าย และเกิดริ้วรอยบริเวณร่องแก้มมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากกระทบทางด้านสุขภาพแล้ว PM2.5 มีผลให้ก่อเกิดภาวะโลกร้อน ทำให้ฝุ่นรุนแรงและซับซ้อนขึ้น และเป็นมลพิษที่มีผลกระทบกับสุขภาพมากที่สุด ในบรรดามลพิษทางอากาศโดยทั่วไป 

สาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่นPM2.5 เช่น ไฟป่า การเผาขยะ การเผาเพื่อทำการเกษตรในที่โล่ง ควันที่เกิดจากการทำงานด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ และฝุ่นจากการก่อสร้าง กิจวัตรต่าง ๆ ของคน เช่น สูบบุหรี่ การจุดธูปเทียน เผากระดาษ การใช้เครื่องถ่ายเอกสาร เป็นต้น

PM2.5 ทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง

– มีอาการ ไอ จาม หรือภูมิแพ้

 – ผู้ที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว จะยิ่งกระตุ้นทำให้เกิดอาการภูมิแพ้มากขึ้น

 – โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง

– โรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรัง

– โรคปอดเรื้อรังหรือมะเร็งปอด

วิธีป้องกันระหว่างใช้ชีวิตท่ามกลางฝุ่นPM2.5

– ปิดประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าบ้าน

– ดื่มน้ำเปล่าสะอาดมาก ๆ ช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกในร่างกาย

– งดสูบบุหรี่

– สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยใช้หน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ดีและมีประสิทธิภาพคือ หน้ากาก N95 ซึ่งมีราคาสูงกว่าหน้ากากอนามัย แม้บางคนอาจสวมหน้ากากแล้วอาจให้ความรู้สึกอึดอัดเพราะหายใจได้ลำบากกว่าปกติ แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นีและป้องกันได้ดี หากไม่ใช้หน้ากาก N95 อาจใช้หน้ากากอนามัยที่มีฟิลเตอร์ 3 ชั้น ซึ่งมักมีเขียนระบุบนผลิตภัณฑ์ว่าสามารถป้องกัน PM2.5 ได้ หรือถ้าหากหาไม่ได้จริงๆ อาจใช้หน้ากากอนามัยธรรมดาแต่สวมทับ 2 ชั้น หรือซ้อนผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชูไว้ด้านในก็ได้

– พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิดเมื่ออากาศอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมกล้างแจ้งหรืออยู่ภายนอกอาคารควรใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองทุกครั้ง

– ใช้เครื่องฟอกอากาศ เนื่องจากภายในอาคารอาจจะไม่ปลอดภัยจาก PM2.5 โดยเฉพาะอาคารที่มีการเปิดปิดประตูบ่อยครั้งจากการที่มีผู้คนเข้าออกจำนวนมาก ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะทำให้อากาศภายในห้องสะอาดขึ้น

Editor : Twentyren

อ้างอิงข้อมูลและรูปภาพเพิ่มเติม: https://health.mthai.com/howto/health-care/15736.html

https://www.google.com/url?sa=i&url=https%3A%2F%2Fwww.thairath.co.th%2Fscoop%2Ftheissue%2F2551385&psig=AOvVaw2BjF5zH92wicQ9ysJ38B0-&ust=1673587557042000&source=images&cd=vfe&ved=0CBAQjRxqFwoTCLCn0tClwfwCFQAAAAAdAAAAABAV